fbpx

6 ข้อคิดก่อนสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่

วิธีการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในการงาน และ ชีวิต

6 ข้อคิดก่อนสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่

สำหรับคำถามที่น้องๆควรรู้ไว้เพื่อตอบตัวเองหรือเตรียมตัวให้พร้อมก่อนหางานให้ประสบความสำเร็จค่ะ

1.    เราต้องการเป็นอะไร?

ถ้าเรายังไม่มีจุดมุ่งหมายเส้นทางที่เราเดินมันจะสะเปะสะปะค่ะ และเสียเวลา ถ้าเรายังค้นหาตัวเองไม่พบ แนวทางที่แนะนำคืออย่างน้อยน้องควรจะรู้ว่าตัวเองมีบุคลิกภาพแบบไหน เพื่อที่จะหาลักษณะงานที่ตรงกับบุคลิกภาพของเรา อันนี้ก็จะทำให้การทำงานสนุกขึ้นมาได้ค่ะ เช่นเป็นคนที่ไม่ชอบนั่งทำงานนานๆอยู่กับที่ ชอบสอน ชอบที่จะนำเสนองานหน้าชั้นเรียนแต่เรียนเก่งด้าน IT ดังนั้นการ หางาน IT ของน้องคนนี้อาจเป็นงานขาย หรืองานสอนด้าน IT ซึ่งลักษณะงานจะต้องการคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีค่ะ ลองค้นหาดูว่าตัวเองต้องการเป็นอะไร

2.    มีประสบการณ์การทำงานบ้างไหม?

“งานส่วนใหญ่ต้องการคนมีประสบการณ์อย่างน้อย 1 ปี เด็กจบใหม่ก็ไม่มีโอกาสสิพี่” อีกคำถามที่โดนถามมากๆ ใช่ค่ะนายจ้างส่วนมากหรือทั้งหมดแหละค่ะ ที่ต้องการลูกจ้างที่มีประสบการณ์ในการทำงานในด้านนั้นๆ เพราะจะได้ไม่เสียเวลามาสอนงานกันใหม่อีก 4-6 เดือน โอกาสของน้องจบใหม่มีค่ะ ถ้าน้องมีประวัติการทำงานหรือกิจกรรมในระหว่างที่เรียน พี่ขอให้น้องลองทบทวนว่าช่วง 4 ปีที่เรียนอยู่เราฝึกงานร่วมสหกิจศึกษา ทำงานพาร์ทไทม์ที่ไหนบ้าง หรือการเป็นอาสาสมัครที่ไหนบ้างลิสต์ออกมาให้หมดค่ะ ถ้าสิ่งที่เราได้ทำมาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เราสมัครก็เยี่ยมเลยค่ะ  ส่วนกิจกรรมอื่นๆถึงไม่เกี่ยวแต่ก็จะเป็นสิ่งที่แสดงว่ามีทำงานร่วมกับคนอื่นได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าน้องไม่ทำกิจกรรมอะไรเลย ก็อาจต้องเริ่มเลยหละค่ะ

3.    รู้จักลักษณะงานที่สมัครรึเปล่า?

หลายๆคนที่มาสัมภาษณ์งานบอกว่าสนใจตำแหน่งที่สมัคร แต่พอถามว่ารู้ไหมว่าตำแหน่งนี้ต้องทำอะไรบ้างก็อึ้งกันเป็นแถว คนสัมภาษณ์นึกอยู่ในใจละค่ะว่ าแล้วบอกว่าสนใจได้อย่างไรกัน? ถ้าสนใจจริงก็ต้องตอบได้สิจ้ะหนู ^^ ข้อนี้เชื่อมโยงกับข้อแรกที่เราศึกษาลักษณะงาน เพื่อเป็นเส้นทางที่เราจะก้าวไปสู่สิ่งที่เราต้องการเป็น(ถ้าค้นพบตัวเองแล้ว) หรือการหางานที่ตรงกับบุคลิกภาพของเรา

4.    เรามีใบประวัติ (Resume) ที่ดีหรือยัง?

น้องอาจเก่งจริงไรจริงแต่ถ้า resume น้องไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถของน้องได้ใบสมัครของน้องจะได้รับการจัดลำดับไปอยู่ด้านล่างๆแทนที่จะอยู่ใบแรกๆ ซึ่งหมายถึงโอกาสที่มากขึ้นด้วยค่ะ เริ่มค้นคว้าหาตัวอย่างหรือวิธีการเขียนResume สำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่ดีๆได้แล้วค่ะ

5.    มีบุคคลอ้างอิงรึยัง?

การที่เรามีบุคคลอ้างอิงยืนยันความประพฤติ หรือประวัติที่เราลงไปใน Resume จะทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้เขียนประวัติปลอมกันเยอะ เลยทำให้นายจ้างหลายรายต้องตรวจสอบค่ะว่าใบปริญญาฯจริงรึเปล่า เคยทำฝึกงานจริงรึเปล่า? ดังนั้นถ้าน้องไปฝึกงานก็คุยกับหัวหน้าแผนกที่ไปฝึกนะคะว่าขอชื่อและเบอร์ติดต่อไว้สำหรับอ้างอิงใน Resume ได้ไหมคะ ถ้าน้องทำตัวดีก็มีแต่คนยินดีให้อ้างอิงค่ะ อีกบุคคลหนึ่งที่จะมักจะได้รับการขออ้างอิงคืออาจารย์ที่ดูแลเราค่ะ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะอาจารย์หรือใครก็ตามต้องได้รับอนุญาตก่อนนะคะ เดี๋ยวแทนที่ท่านเหล่านี่จะชมเชยก็จะกลายเป็นตรงกันข้ามไปซะ

6.    เตรียมตัวเตรียมใจสำหรับโลกทำงานรึยัง?

โลกของการทำงานต่างกับโลกใบเล็กสมัยเป็นนักศึกษามากจ้ะน้อง เพราะกฏระเบียบในการอยู่ร่วมกัน วัฒนธรรมองค์กร คนที่เราร่วมทำงานด้วยมาจากพื้นเพที่หลากหลายและอายุที่ต่างกัน ยิ่งองค์กรใหญ่ความแตกต่างก็มีมากขึ้น ต้องปรับตัวกันพอสมควรค่ะ ดังนั้นการทำงานให้ประสบความสำเร็จการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีสำคัญพอๆกับการมีทักษะด้านงานที่ดีเลยดีเดียวค่ะ

อ่านมาถึงตอนนี้บางคนเริ่มมีอาการดีใจที่จะจบบวกเครียดที่จะเริ่มทำงาน ^^ เอาใจช่วยทุกคนค่ะ คนที่เริ่มเครียดๆแต่น้อยพอค่ะพอที่จะทำให้เรากระตือรือล้นในการค้นหาตัวเอง บุคลิกภาพ หางานพาร์ทไทม์ทำ เริ่มลงมือเขียน resume หรือเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมก็ไม่เลวเพราะใครที่ภาษาอังกฤษดีได้เปรียบในการสมัครงานแน่นอนจ้ะ โชคดีทุกคนค่ะ