October 16, 2019

ชาว Millennials กับบันไดสู่ความสำเร็จ

by Pantita Sereephanpanit Fern

ชาว Millennials กับบันไดสู่ความสำเร็จ

 

คุณเกิดในช่วงปี 1980 – 2000 หรือเปล่า ถ้าใช่คุณน่าจะอยากอ่านบทความนี้นะ เพราะเรามีทิปเกี่ยวกับคนยุค Millennial และการทำงานมานำเสนอ บทความนี้จะเน้นเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้ตัวเองก้าวหน้าในการทำงาน ทั้งการเตรียมตัวในการหางานและหลังจากได้งานที่ต้องการแล้ว

 

ตั้งเป้าหมาย

ก่อนที่จะลงมือทำบางอย่างเราจะต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าต้องทำยังไงเราจึงจะไปถึงจุดๆนั้นได้ ตั้งเป้าหมายโดยไม่ต้องคำนึงว่ามันเล็กหรือใหญ่เกินไปเพราะแต่ละคนมีความสามารถต่างกัน แค่คุณทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

 

ประเมินตนเอง

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง สังเกตและประเมินดูว่าตัวคุณมีทักษะอะไรบ้างและขาดทักษะไหน ถ้าคุณคิดว่าทักษะที่ขาดไปอาจจะมีส่วนช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำงานคุณน่าจะลองศึกษาและพัฒนาในสิ่งที่ขาดหายไปนะ นอกจากจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นแล้วคุณยังมีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไปพร้อมกันด้วย

 

เน็ตเวิร์ค!

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะทำงานอยู่หรือไม่ การพบปะและทำความรู้จักกับผู้คนถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากคุณจะได้รู้จักกับคนกลุ่มใหม่แล้ว คุณยังสร้างฐานชื่อเสียงของตัวเองในสังคมอีกด้วย ในการสร้างเน็ตเวิร์คนั้นคุณควรจะนึกถึงผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างได้รับจากกันและกัน การสร้างเน็ตเวิร์คโดยที่คำนึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่สมควรและยังทำให้ความน่าเชื่อถือภายในสังคมของคุณลดลงอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่ๆ

 

ปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์

ในโลกนี้มีหลายคนที่อยากประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ บางคนก็ไปถึงจุดนั้นได้บางคนก็ต้องล้มเลิกเป้าหมาย หากคุณต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนที่จะไปถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ นอกจากคนรอบข้างแล้วคุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ได้อีกด้วย บุคคลเหล่านี้จะให้คำแนะนำและเล่าถึงบทเรียนที่เขาพบเจอมากว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ แต่อย่าลืมว่าเขาไม่สามารถให้คำปรึกษากับคุณได้ตลอดเวลาเพราะอาจจะมีธุระหรืองานส่วนตัวที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นทำให้เขาเห็นว่าคุณยินดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาและที่สำคัญต้องเคารพเวลาส่วนตัวด้วย

 

การฝึกงานเป็นโอกาสที่ดี

สำหรับนักเรียน นักศึกษา การฝึกงานถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้เปิดมุมมองใหม่และได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่คุณมีความสนใจ นอกจากนั้นแล้วคุณยังได้ฝึกฝนตัวเองรวมถึงพัฒนาทักษะต่างๆ ก่อนที่คุณจะก้าวเข้าสู่การทำงานแบบเต็มตัวอีกด้วย บางบริษัทเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาฝึกงานในช่วงปิดเทอมเพื่อเป็นประสบการณ์และยังใช้เก็บเครดิตในการเรียนได้ สำหรับการฝึกงานนั้นคุณสามารถปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือหาจากเว็บประกาศงานได้

 

ทำงานอาสาสมัครสิ

การทำอาสาสมัครทำให้คุณได้ประสบการณ์ที่ดีและมีคุณค่าในบรรยากาศที่ไม่ตึงเครียด แถมคุณยังนำไปเพิ่มในเรซูเม่ของคุณได้ด้วย นอกจากนี้คุณยังได้รู้จักผู้คนเพิ่มขึ้นอีกด้วยซึ่งในส่วนนี้เขาอาจจะแนะนำงานให้คุณก็ได้หรือคุณสามารถขออนุญาติใส่ชื่อเขาเป็นบุคคลอ้างอิงเมื่อสมัครงาน ถือว่าเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้เพราะเขาเห็นการทำงานของคุณในเวลานั้นๆ การเลือกเป็นอาสาสมัครนั้นขึ้นอยู่กับหลายเหตุผล คุณอาจจะเลือกงานอาสาที่ใช้ทักษะและความรู้ทั่วไป หรือบางคนอาจจะใช้ทักษะที่ตัวเองรู้ อย่างเช่น การเขียนโปรแกรมหรือซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตามกิจกรรมนี้จะให้ประโยชน์กับคุณมากมายเลยแหละ

 

 เพิ่มทักษะโดยการเข้าคลาสออนไลน์

หากคุณผ่านขั้นตอนประเมินตัวเองมาแล้ว และพบว่าตัวเองขาดทักษะบางอย่างไปและสนใจที่จะเรียนเพิ่มเติม ทว่าคุณไม่มีเวลาที่จะไปที่สถาบันด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่! เราเชื่อว่าคุณมีอินเทอร์เน็ตจึงอยากแนะนำให้คุณเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ วิธีนี้ทำให้คุณประหยัดเวลาได้มากและไม่ต้องอารมณ์เสียกับการจราจรบนถนนและผู้คนในระบบการเดินทางสาธารณะ อีกทั้งคุณสามารถเรียนเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ได้ตามที่สะดวก

 

ทำให้เรซูเม่ของตัวเองโดดเด่น

หลังจากเช็คความพร้อมของตัวเองแล้วก็ถึงเวลาเช็คความเรียบร้อยของเรซูเม่ เรซูเม่เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจรับคนเข้ามาทำงานในบริษัท เพราะมันบอกรายละเอียดเกี่ยวกับทักษะและประสบการณ์ของคุณ ควรจะมีจำนวนมากที่สุดแค่ 2 หน้า การทำเรซูเม่ที่ดีควรจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงานหรือฝึกงาน และทักษะที่ตรงกับตำแหน่งงาน เป็นต้น

ไม่ควรใส่ทักษะที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น สมัครงานในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ แต่ใส่ความสามารถด้านดนตรีหรือกีฬาในส่วนทักษะและความสามารถ ไม่ใส่ทักษะด้านคอมพิวเตอร์เลย จะทำให้โอกาสได้เข้าทำงานน้อยลง

เพิ่มโอกาสในการได้รับการติดต่อจากบริษัทด้วยการสร้างโปรไฟล์บน LinkedIn และนำเรซูเม่ของคุณอัพโหลดขึ้นไปด้วยพร้อมกับอธิบายตัวเองแบบคร่าวๆ แต่มีข้อมูลที่สำคัญและน่าสนใจ

 

เรียนรู้จากข้อผิดพลาด

ทุกคนเคยทำผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ดังนั้นคุณควรจะเรียนรู้จากสิ่งที่ผิด หาต้นเหตุและนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำรอย นอกจากบทเรียนจากข้อผิดพลาดแล้ว การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นั้นมีหลากหลายทางด้วยกัน การเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไม่ควรจะสิ้นสุดแม้ว่าคุณจะมาถึงจุดที่ตั้งเป้าหมายแล้ว พยายามศึกษาสิ่งใหม่ๆ หรือสิ่งที่ผู้คนกล่าวถึงในช่วงเวลานั้นเพื่อที่จะตามทันโลกและเข้าใจเทคโนโลยี

 

ในปัจจุบัน Millennial ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ในตลาดแรงงาน ด้วยความคิด วัฒนธรรมและการดำเนินชิวิตที่ต่างออกไปจากคนรุ่นก่อนมากรวมถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้ง่ายต่อการปรับตัวเพื่อเข้าถึงข้อมูลต่างๆ แต่ว่าบางคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการหางาน อาจเนื่องมาจากไม่ได้รับคำแนะนำที่ดีพอดังนั้นการหาข้อมูลเองจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหา

หนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมตัวหางานคือเรซูเม่ที่มีข้อมูลของผู้สมัครที่ตรงต่อตำแหน่งงานและประสบการณ์ทำงานถ้ามี การแต่งตัวเพื่อไปสัมภาษณ์งานก็เช่นกัน ผู้สมัครควรแต่งตัวให้เรียบร้อยเนื่องจากบางบริษัทประเมินเรื่องการแต่งตัวด้วย

หลังจากได้งานที่ต้องการแล้วคุณไม่ควรจะหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือสกิลที่คุณมีอยู่แล้ว การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะทำให้คุณได้รับการพัฒนาในการทำงานด้วย การเรียนรู้ทักษะใหม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความสะดวกกว่าแต่ก่อนมาก นอกจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วคุณยังสามารถปรึกษากับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านที่คุณสนใจก็ได้เพราะเขามีประสบการณ์และสามารถถ่ายทอดบทเรียนที่ได้รับมาให้คุณเพื่อนำไปปรับปรุงวิธีการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น

ขอบคุณเนื้อหาจาก: Simplilearn

Uncategorized