ธันวาคม 7, 2023

อยากเป็น Software Tester / QA Tester ต้องเริ่มอย่างไร

by Thanthip Suratthanyakorn Nat

อยากเป็น Software Tester / QA Tester ต้องเริ่มอย่างไร

อยากเป็น Software Tester / QA Tester ต้องเริ่มอย่างไร

Software Tester / QA Tester หรือ Software Test Engineer เป็นอีกหนึ่งในตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในวงจรพัฒนาซอฟต์ แวร์ (SDLC – Software Development Life Cycle) ที่ได้รับความสนใจมาช่วงระยะหนึ่ง เป็นงานที่มั่นคงและรายได้ตอบโจทย์คนทำงาน แต่หากไม่มีประสบการณ์เลย จะสามารถเข้าสู่วงการนี้ ได้ยังไงบ้างนะ?

 

คนที่รู้สิ่งที่ชอบก่อนย่อมได้เปรียบ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า คนที่รู้สิ่งที่ชอบก่อนย่อมได้เปรียบ นักเรียนที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเรียนสายคอมพิวเตอร์ ไอที จะได้เปรียบกว่าผู้ที่ไม่ได้เรียนมาตรงสาย มีไม่น้อยที่นิสิต นักศึกษาจะขอโอนย้ายมายังคณะหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อปรับพื้นฐานตั้งแต่แรก เช่น คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) หรือจะเป็น indirect program เช่น คณิตศาสตร์ประยุกต์ สถิติประยุกต์ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ก็เป็นไปได้เช่นกัน

ระหว่างเรียน แม้ทางมหาวิทยาลัย / วิทยาลัย / สถาบัน จะไม่บังคับฝึกงาน แต่อยากแนะนำว่าควรไปฝึกงาน ไม่ว่าจะเป็นฝึกงานภาคฤดูร้อน หรือภาคการศึกษาที่วิชาเรียนน้อย เพื่อสะสมประสบกาณ์ในการทำงานจริง 

 

ศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจ

ต่อมาลองศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจเริ่มจาก Core Foundation ก่อน เพราะผู้ทดสอบระบบหรือเทสเตอร์นั้นจะต้องมีความรู้พื้นฐานของการเทสต์ระบบซอฟต์แวร์ต่าง ลงเรียนหลักสูตรพื้นฐานตั้งแต่เรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ระบบ OS ฟังก์ชันการทำงานของแอปพลิเคชัน หรือจะให้ลงรายละเอียดในทักษะด้านเทคนิค ก็เป็นความรู้จำพวก Database/ SQL, Linux commands, Test Management Tool (เช่น Testlink, Tuskr, PractiTest, Xray, Testpad, Qmetry, Testmo, SpiraTest) และ Defect Tracking tool เช่น QC, Bugzilla, Jira เป็นต้น

ร่วมกับการมีทักษะในการเขียนหรืออ่านโค้ดภาษาจำพวก C, Java, JavaScript, Python หรือ PHP ก็ช่วยให้การทำงานเทสต์เป็นไปด้วยดีขึ้น ทางเราได้รวบรวมสถาบันและหลักสูตรที่น่าเชื่อถือสำหรับการลงเรียน QA/ Software Testing มาไว้ให้พิจารณา ดังนี้

  1. Udemy 

คอร์สที่น่าสนใจได้แก่ Master Software Testing+Jira+Agile, Software Tester Bootcamp, C++ Unit Test (TDD), Postman REST API Testing, Robot Framework Test Automation – Level 1 (Selenium), Business Analyst: Software Testing Processes & Techniques 

ข้อดีคือ ราคาประหยัด ใช้เวลาเรียนตอนไหนก็ได้ ฟังซ้ำได้ แต่เป็นรูปแบบวิดีโอออนไลน์ ซึ่งต้องการความขยันหมั่นเพียงและวินัยในการศึกษาเป็นอย่างมาก

  1. Skilllane

คอร์สที่น่าสนใจได้แก่ Software Test Engineer (โดย Senior Software Engineer), Software Test (automation), CI/CD (โดย CTO & Automation Test Engineer), Software Test, Jenkin, Appium, Katalon (โดย QA & DevOps) 

ข้อดีคือ สอนโดยคนไทย อธิบายง่าย ฟังซ้ำได้ รูปแบบการสอนเป็นวิดีโอออนไลน์เช่นเดียวกับสถาบันแรก

  1. Software Park 

คอร์สที่น่าสนใจได้แก่ Software Architectural Test Case Writing, Test Case Design, การออกแบบ และการทดสอบซอฟต์แวร์ (Software Testing), Advance Robot Framework with Python 

ข้อดีคือ ได้เรียนจริงจัง ได้ออกแบบจริง หลักสูตรนี้จะต้องสร้างโปรเจกต์ มีทั้งรูปแบบออนไลน์และคลาสรูม มีช่วงเวลาเปิดรับที่แน่นอน

  1. W3School 

คอร์สที่รวมทักษะเบื้องต้นทางด้านโปรแกรมมาให้เรียนฟรี ที่อยากแนะนำคือ 2 คอร์สนี้ Python https://www.w3schools.com/python/default.asp

และ SQL https://www.w3schools.com/sql/default.asp

ข้อดีคือ จะสอน step-by-step ให้เราได้พยายามทำความเข้าใจที่ละขั้น ตั้งแต่ง่ายไปซับซ้อน 

เสริมด้วยการมีและ/ หรือการสร้าง Soft skills ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ อุปนิสัย และทักษะทางสังคม ที่เหมาะกับการเป็นเทสเตอร์ มีหลักๆ ดังต่อไปนี้

  1. การมีมุมมองภาพกว้างและใส่ใจรายละเอียด มีสายตาที่เฉียบแหลมใช้จับผิด (หรือถูก) ในทุก ๆ จุด หรือเรียกได้ว่าเป็นคนช่างสังเกตนั่นเอง
  2. ความสามารถในการวิเคราะห์และการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล เช่น วิเคราะห์การใช้งาน ระบุรูปแบบความผิดพลาดซ้ำ ๆ พฤติกรรมของผู้ใช้งาน รวมไปถึงทักษะการมองต้นตอของปัญหาเพื่อแก้ไขอย่างเหมาะสม
  3. ทักษะในการสื่อสาร การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้การทำงานทั้งภายในทีมและระหว่างทีมเป็นไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นทีมเทสต์ ทีมพัฒนา หรือผู้ใช้งาน
  4. ทักษะในการแก้ปัญหา ให้ตรงประเด็น ทันท่วงทีและทันต่อ deadline ที่กำหนด
  5. ยินดีที่จะทำซ้ำ เพราะเทสเตอร์ต้องเช็คซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ในแต่ละโปรเจกต์ ฉะนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อง่าย อาจจะต้องลองนั่งสมาธิเพิ่มความอดทน หรือลองตั้งใจเพิ่มทักษะข้อ 1 เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น อย่าลืมว่า การทำซ้ำ กับ ความมีวินัย เป็นของคู่กัน ถ้าเป็นคนที่ไม่มีวินัยแล้ว ความอดทนในการทำสิ่งนั้นซ้ำ ๆ ก็จะไม่เกิดผล
  6. ความสามารถในการคิดนอกกรอบ เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในแต่ละกรณีหรือเหตุการณ์ ให้ครอบคลุมความหลากหลายของการทดสอบระบบให้มากที่สุด

 

ลงมือทำเลยจะได้รู้ว่าไปได้ไกลแค่ไหน

ลำดับสุดท้าย คือ การลงมือทำ เราสามารถเริ่มต้นเข้าสู่วงการต่าง ๆ ได้ด้วยการลงสนามจริง ในทางการทดสอบระบบก็เช่นกัน ตั้งแต่ เริ่มสร้างโปรเจกต์ส่วนตัว ฝึกทำเทสต์ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะ ทดสอบ website หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ การออกหางานที่รับ Entry level หรือ Junior ที่รับคนไม่มีประสบการณ์ ตั้งใจเรียนรู้ตลอดเวลา ติดตามเทรนด์หรือแนวโน้มด้านการทดสอบระบบ อ่าน Blog เข้าฟังสัมมนา หา Connection/ Networking ด้วยการเข้าร่วมเพจหรือกลุ่ม QA/ Tester เข้าร่วมการประชุม พบปะ (มีทั้ง Off-line และ On-line) เพื่อรับฟังจากประสบการณ์จริงของผู้ที่ทำงานด้านนี้โดยตรง 

หากมีความรู้แล้วอยากประลองกำลัง เราขอแนะนำ Certification ที่ได้รับการรับรอง 

  1. ISTQB (International Software Testing Qualifications Board) ที่มีให้เริ่มตั้งแต่ Certified Test Foundation Level (CTFL) ไปจนถึง ISTQB Test Management – Managing the Test Team
  2. ISCB (International Software Certification Board) ที่เริ่มด้วย Certified Associate in Software Testing (CAST) ถึง Certified Manager of Software Testing (CMST)

ทั้งสองเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก (แน่นอนว่าข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ แต่จะมีเอื้อเวลาเพิ่มให้สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ซึ่งแปลว่า การได้ทักษะภาษาอังกฤษก็จะเพิ่มโอกาสในการทำงานให้คุณได้อย่างมาก) และสามารถเป็นใบผ่านทาง หากต้องการไปทำงานต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศที่ค่าตัวเทสเตอร์แพง ๆ อย่าง USA, Canada, Australia และ UK หรือโยกมาฝั่งยุโรป Germany, Switzerland, Sweden, Finland, Norway และ Denmark ก็ยอมจ่ายค่าตัวเทสเตอร์ไม่น้อยหน้ากันเลย

 

การต่อยอดในสายงานนี้มีอะไรบ้าง

นอกจากนี้ หากคุณเริ่มมีประสบการณ์บ้างแล้ว คุณยังสามารถต่อยอดทั้งสายบริหาร คุณสามารถขึ้นเป็น Test Lead, Test Manager หรือ ไปสาย Specialist งานด้าน Automation Test, Performance Test, DevOps, White Hacker, Penetration Test หรืออื่นๆ อีกมากมายที่รอคุณอยู่ แต่โปรดจำไว้ว่า การจะเป็นผู้ทดสอบระบบที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องทุ่มเททั้งเวลาและความพยายาม ยิ่งมีประสบการณ์มากขึ้นผ่านความยากง่าย ความซับซ้อนของแต่ละโปรเจกต์ที่เจอ คุณก็จะได้รับการพัฒนาไปตามนั้นด้วย

Software Tester ไม่ใช่ว่าใครก็เป็นได้ แล้วคุณล่ะ คิดว่าตนเองเป็นและเหมาะกับ Software Tester หรือเปล่าคะ?

หากคุณเป็นคนสาย IT หมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ชอบงานท้าทาย ต้องการแสดงฝีมือ และกำลังมองหาโอกาสดี ๆ ให้ตัวเอง คลิกดูงานที่น่าสนใจจากเรากว่า 300 ตำแหน่งได้ที่นี่ คลิก Aware IT-Jobs

อยากเป็น Software Tester / QA Tester ต้องเริ่มอย่างไร

อยากเป็น Software Tester / QA Tester ต้องเริ่มอย่างไร

About Thanthip Suratthanyakorn

Senior Recruiter - Group Recruitment & Organization Development | Aware Group - Passion in supporting people to unlock their career potential, tailored to professional goals and personal needs. | อยากให้ทุกคนได้ทำงานที่ตัวเองรัก ได้พัฒนา มีแนวคิด ได้ใช้ชีวิต และมีความสุขกับวันธรรมดาๆไปด้วยกัน

Uncategorized @th