08 Aug ChatGPT vs. Bard ศึก Chatbot รุ่นใหม่ ใครจะอยู่ ใครจะไป
ช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากับ ChatGPT และอาจเคยใช้งานกันมาบ้างแล้ว หากให้อธิบายคร่าว ๆ ChatGPT คือแชตบอต (Chatbot) ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อ Prompt หรือคำสั่งที่เราป้อนเข้าไป ซึ่งช่วยเราค้นหาข้อมูลและจัดการกับงานต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า เป็นจินนี่จ๋า ขออะไรมาก็จัดให้ หลังจากนั้นเหล่าแชตบอตก็เริ่มพัฒนาออกมามากขึ้นรวมถึง Bard แชตบอตจาก Google ที่ไม่นานมานี้ได้ประกาศอัปเดต ทำให้เราสามารถใช้ภาษาไทยเพื่อป้อนคำสั่งได้ในที่สุด
อ้าว แต่แบบนี้จะเลือกใช้ตัวไหนดีเพราะทั้งตอบเร็ว ใช้ฟรี และป้อนข้อมูลด้วยภาษาไทยก็ทำได้ดีทั้งคู่ ถ้าอย่างนั้นมาลองเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานระหว่าง ChatGPT และ Bard ผ่านการป้อนคำสั่งเข้าไป 3 แบบ ได้แก่ การสรุปและอธิบายเนื้อหา ความคิดสร้างสรรค์ และบทสนทนาในชีวิตประจำวัน
การสรุปและอธิบายเนื้อหา
ข้อความที่ป้อน “สรุป SAP B1 แบบสั้น ๆ”
คำตอบจาก ChatGPT
SAP B1 (SAP Business One) เป็นระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง มีความสามารถในการรวมกระบวนการธุรกิจหลากหลายด้าน เช่น การขาย, การซื้อ, บัญชี, คลังสินค้า, การผลิต และการวางแผนทรัพยากร เน้นความสะดวกในการใช้งานและการปรับแต่ง ช่วยให้ธุรกิจมีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน และสามารถตรวจสอบข้อมูลและสรุปผลการดำเนินงานได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเป็นผลิตภัณฑ์ของ SAP AG ที่มีชื่อเสียงในด้านซอฟต์แวร์ธุรกิจ
คำตอบจาก Bard
SAP Business One เป็นซอฟต์แวร์ ERP (Enterprise Resource Planning) ที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญได้ เช่น การบัญชี การเงิน การขาย การจัดซื้อ การผลิต และบริการลูกค้า SAP B1 เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้สูง ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
คำตอบมีความคล้ายคลึงกันมากและสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายทั้งคู่ (และถ้าใครยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAP B1 ว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้จะช่วยพัฒนาธุรกิจได้อย่างไร เหมาะกับสถานการณ์ใดบ้าง อ่านต่อได้ที่นี่)
ความคิดสร้างสรรค์
ข้อความที่ป้อน “ถ้าหมูกระทะเป็นคน จะมีรูปร่างหน้าตาและลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร”
คำตอบจาก ChatGPT
ถ้าหมูกระทะเป็นคน รูปร่างหน้าตาอาจจะมีลักษณะแบบขี้อายและน่ารัก ดูเรียบง่ายแต่มีความน่าสนใจ นิสัยของหมูกระทะเป็นคนจะเป็นมิตร ขี้เล่น และร่าเริง ชอบทำอาหารและสร้างความสนุกให้กับผู้คนที่อยู่ใกล้ตัว การเป็นเพื่อนกับหมูกระทะเป็นคนจะทำให้ชีวิตของคุณเติมสีสันและมีความสุขขึ้นได้เป็นอย่างดี! 🐷😄
คำตอบจาก Bard
ถ้าหมูกระทะเป็นคน ฉันคิดว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มรูปร่างใหญ่โต แข็งแรง ขนดก เขาจะมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและดวงตาที่สดใส เขาจะเป็นมิตรและเข้ากับคนง่าย เขาชอบปาร์ตี้และสนุกสนาน เขาเป็นคนขี้เล่นและรักสนุก เขาจะเป็นพ่อครัวฝีมือดีและชอบทำอาหารให้กับคนที่เขารัก เขาจะเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมและเพื่อนที่ยอดเยี่ยม เขาจะเป็นผู้ชายที่โชคดีและมีเสน่ห์มาก
คำตอบอธิบายออกมาได้ชัดเจนและน่าพึงพอใจทั้งคู่ โดย ChatGPT จะใช้ภาษาที่ดูเป็นมนุษย์มากกว่า ส่วน Bard จะบรรยายลักษณะรูปร่างที่เห็นได้ชัดเจนกว่า แต่ก็มีการใช้คำแปลก ๆ เช่น ขนดก ซึ่งดูเป็นคำที่ใช้กับสัตว์ เพราะเราน่าจะพูดกันว่า มีขนเยอะ มากกว่าเมื่อใช้บรรยายถึงลักษณะของคน
บทสนทนาในชีวิตประจำวัน
ข้อความที่ป้อน “วันนี้คุณคิดว่าฉันควรทานอะไร”
คำตอบจาก ChatGPT
เนื่องจากคุณไม่ได้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับประเภทอาหารที่คุณชอบ หรือสภาพร่างกายและสุขภาพของคุณในขณะนี้ จึงทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะแนะนำอาหารได้เป็นอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณคิดในลักษณะของการบริโภคอาหารที่สมดุลย์และมีประโยชน์สำหรับร่างกาย
คำตอบจาก Bard
ขึ้นอยู่กับคุณว่าวันนี้คุณจะกินอะไร! มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อตัดสินใจว่าคุณจะกินอะไร คุณสามารถคิดถึงสิ่งที่คุณอยากกิน พิจารณาสิ่งที่คุณมีอยู่ในตู้เย็นหรือตู้กับข้าว หรือมองหาสูตรอาหารออนไลน์ คุณสามารถขอให้เพื่อนหรือครอบครัวแนะนำร้านอาหารหรือสูตรอาหารก็ได้ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณกินขึ้นอยู่กับคุณ!
แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ให้คำตอบมาตรง ๆ แต่คำตอบในของ ChatGPT จะดูนุ่มนวลกว่า Bard ที่ดูเหมือนจะตอบทวนคำถามไปเลย (นึกถึงโมเมนต์คนมีคู่แล้วถามว่ากินอะไรดี ถ้าตอบไปว่า แล้วแต่หรือกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน คงจะมีเรื่องกันไม่น้อย ฮ่า ๆๆ) อย่างไรก็ดี ChatGPT สะกดคำว่า สมดุล ผิดไป จึงขอหักคะแนนเพิ่มเติมในจุดนี้
โดยความแตกต่างระหว่างแชตบอตทั้งสองตัวนี้คือ Bard จะมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการใช้งานมากกว่า เช่น มีร่างคำตอบถึง 3 ร่าง สร้างตารางเปรียบเทียบที่นำไปใช้งานกับ Sheets และมีแหล่งข้อมูลที่ทันสมัย ส่วน ChatGPT จะมีความเป็นมนุษย์มากกว่า เช่น มีครับ ค่ะลงท้ายประโยค และใช้อิโมจิในบทสนทนา ทำให้รู้สึกเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่า
แชตบอตทั้งสองตัวทำหน้าที่ได้ดี สามารถมอบข้อมูลที่ตรงตามต้องการได้ภายในเวลาสั้น ๆ อีกทั้งยังแนะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้เรามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น แต่ในบางครั้งก็อาจมีข้อมูลผิดพลาด เนื่องจากแชตบอตทำได้แค่นำข้อมูลมาให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ได้ทำความเข้าใจกับข้อมูลเหล่านั้นเหมือนที่มนุษย์ทำ ทำให้เราต้องใช้ความรู้และวิจารณญาณที่มีเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำไปเผยแพร่เสมอ
แม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้การันตีว่ามันจะถูกต้องเสมอไป ดังนั้นเราจึงไม่ควรเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ตอบกลับมา แต่ควรนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้สืบค้นและเรียนรู้ให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ในปัจจุบัน ที่ยุคสมัยก็ยิ่งเปลี่ยนไป และเทคโนโลยีก็ก้าวกระโดดไปไกลยิ่งขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำคือการพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับโลกใบนี้ อย่าปิดกั้นและอย่ากลัวที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเองให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เหมือนกับประโยคดังที่กล่าวไว้ว่า “AI จะไม่เข้ามาแทนที่คุณ แต่คนที่ใช้ AI เป็นต่างหาก ที่จะเข้ามาแทนที่คุณ”
- ChatGPT vs. Bard ศึก Chatbot รุ่นใหม่ ใครจะอยู่ ใครจะไป - August 8, 2023
- 3 อุปสรรคการทำงานและแนวทางแก้ไขผ่านการใช้แอปพลิเคชัน - July 21, 2023
- 5 แอปพลิเคชันจาก Google ที่คุณอาจไม่เคยใช้งานมาก่อน - July 6, 2023