fbpx

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้ ERP ควรพิจารณาอย่างไร?

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้ ERP ควรพิจารณาอย่างไร?

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้ ERP ควรพิจารณาอย่างไร?

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้ ERP ควรพิจารณาอย่างไร?

 

ภายหลังวิกฤต COVID-19 ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้เราเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ธุรกิจที่ดีและจะสามารถอยู่รอดได้ จำเป็นต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตามสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อมีการจัดการที่ดีฉะนั้นย่อมมีโอกาสเติบโตไปในทางที่ทิศทางที่ดีขึ้นได้  

 

ธุรกิจจะเติบโตได้ก็ด้วยระบบบริหารจัดการทรัพยากรคุณภาพ 

 

ระบบวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งโครงสร้างการทำงานให้สามารถใช้ได้ทั้งองค์กร ทุกส่วนงาน รวมถึงทำงานระบบบัญชีได้เป็นอย่างดีโดยไม่ทิ้งความยืดหยุ่นในการใช้งานของงานส่วนอื่นไป ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นการกำหนดงานและติดตั้งระบบขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น ทั้งการกำหนดจุดประสงค์ วางเป้าหมาย และค้นหาผลลัพธ์ให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นเลือก ERP คุณภาพ ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้พลาดและสูญเสียโอกาสมากกว่าเดิม 

 

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้ ERP

 

ความเสี่ยง

 

ผู้ประกอบควรกำหนดนโยบาย กระบวนการทำงาน และบทบาทหน้าที่ของผู้ที่ดูแลรับผิดชอบอย่างเหมาะสมในการบริหารและจัดการความเสี่ยง โดยสามารถอ้างอิงจากลักษณะความเสี่ยงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พฤศจิกายน 2562) และพิจารณาทางออกอย่างถี่ถ้วนได้ ดังนี้  

 

1. ความเสี่ยงจากการพลาดโอกาส 

นั่นหมายถึง การพลาดโอกาสในการใช้เทคโนโลยีนั้น เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อการดำเนินงาน หรือสร้างผลลัพธ์ที่ก่อให้เกิดมูลค่าให้แก่องค์กรอย่างคาดไม่ถึง 

 

ควรพิจารณาอย่างไร? 

ระบบ ERP ที่ดีจะมีการออกแบบมาให้มีรายงานเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า การซื้อสินค้า และการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการผลิตหรือซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้พิจารณาและคาดการณ์การดำเนินงานในกระบวนการผลิตได้ 

 

2. ความเสี่ยงจากเทคโนโลยีที่เลือกไม่ตอบโจทย์ 

ในขณะเดียวกัน คุณควรพิจารณาถึงความเสี่ยงในการรับเอาเทคโนโลยีมาใช้ แต่ทว่าไม่สามารถตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้ศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจลดน้อยลง  

 

ควรพิจารณาอย่างไร? 

ระบบ ERP ที่ดี จะช่วยทำให้ผู้ใช้และผู้มีอำนาจตัดสินใจ สามารถเห็นข้อมูลภาพรวมของธุรกิจได้ 360 องศา และเรียลไทม์ ทำให้ตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดและทันท่วงที ลดเวลาและขั้นตอนในการทำงานได้ในหลาย ๆ ส่วน โดยเฉพาะด้านการทำรายงาน (Report) เพราะระบบ ERP ที่ดีจะถูกออกแบบให้มีรายงานในรูปแบบต่าง ๆ ที่ช่วยทุกฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลที่จะนำไปใช้ได้ทันที อาทิเช่น รายงานข้อมูลด้านการขาย การวางแผนซื้อสินค้า การวางแผนการผลิตและซื้อวัตถุดิบ เป็นต้น 

 

3. ความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยีได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ  

 

การรับเอาระบบใหม่เข้ามาใช้ แต่ไปไม่ถึงประโยชน์ที่จะได้จากการพัฒนาบริการหรือการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อาจเป็นเพราะไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถหรือจัดการโครงการตามเป้าหมายที่กำหนดได้ 

 

ควรพิจารณาอย่างไร? 

การมีที่ปรึกษา (ERP Consultant) ที่ไม่เพียงแต่มีประสบการณ์ในธุรกิจแต่ต้องเข้าใจการทำงานของระบบ ERP เป็นอย่างดี จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ช่วยวางแผน implement ที่เหมาะกับความต้องการของบริษัท รวมถึงช่วยให้คุณได้ใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและได้ ROI ที่คุ้มค่ากับการลงทุน 

 

4. ความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานที่หละหลวม  

 

ทันทีที่คุณเริ่มใช้เทคโนโลยี SAP Business One ในแต่ละวันย่อมต้องมีข้อมูลจำนวนมาก แน่นอนว่าการกำกับความเข้มงวดของการเข้าถึง การสร้าง การดึงข้อมูลมาใช้ การเฝ้าระวังแหล่งจัดเก็บ ต้องมีระเบียบและนโยบายที่ชัดเจน หากควบคุมดูแลได้ไม่ดีพอย่อมมีการดำเนินงานที่อาจขัดต่อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ สุดท้ายนำไปสู่การสูญเสียชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือขององค์กร เพราะความเสียหายทางกฎหมายทั้ง ๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้น  

 

ควรพิจารณาอย่างไร? 

ระบบ ERP ที่ดี นอกจากจะถูกออกแบบให้สามารถจัดการและจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมแล้ว ยังมีการบันทึก log ต่าง ๆ ที่ช่วยในการตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างง่ายดายว่า ใครเป็นผู้เข้าไปสร้าง แก้ไข นำเข้าหรือนำข้อมูลต่างๆออกไปอีกด้วย 

 

เวลา ความพร้อม และค่าใช้จ่าย

 

ปัจจัยสำคัญที่องค์กรจะต้องลงทุนไปกับการเลือกซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ๆ ไปจนถึงการใช้งานจริง กว่าทุกขั้นตอนจะดำเนินมาถึงการติดตั้งระบบเพื่อใช้งานวันแรก นั่นคือ เวลา ความพร้อม และค่าใช้จ่าย หลายองค์กรใช้เวลาไปกับการพิจารณาเลือกระบบ แค่ส่วนนี้อาจกินเวลาโดยเฉลี่ย 5-7 เดือน ซึ่งยังไม่รวมระยะเวลาในการวางแผน ลงมือจัดเตรียมข้อมูล นำข้อมูลขึ้นระบบ และอบรมการใช้งานซึ่งอาจใช้เวลาไปจนถึง 6-12 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณเตรียมสิ่งเหล่านี้ได้จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก   

 

  • ขนาดขององค์กรและโจทย์ความต้องการของธุรกิจจากการใช้งานจากระบบ
  • จำนวนหน่วยงาน/ ผู้ใช้ที่คาดหวัง 
  • กำหนด Key person ของแต่ละหน่วยงานที่พร้อมให้ความร่วมมือในการจัดทำข้อมูล 
  • ระบบการดำเนินงานของแต่ละส่วนงานและต้นทางของข้อมูลแต่ละส่วนที่ได้มา 
  • รูปแบบที่ข้อมูลถูกการจัดเก็บ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายโอน 
  • ความซับซ้อนของระบบที่ต้องการติดตั้งและการปรับแต่งที่อยากจะใช้ 
  • ความพร้อมของระบบการจัดเก็บข้อมูลหรือคลาวด์ขององค์กร 

 

เวลาและความพร้อมนี่เองที่จะเป็นตัวกำหนดให้คุณสามารถทราบราคาค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่จำเป็นและส่วนเสริมที่ควรค่าแก่การลงทุน  

 

การเลือกผู้วางระบบ 

 

จะแน่ใจได้อย่างไรว่า ผู้วางระบบที่คุณเลือกนั้นจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก ERP ได้ครบทั้งกระบวนการไปจนถึงปลายทางที่คาดหวัง? เราควรเลือกผู้วางระบบอย่างไร 

 

เลือกผู้วางระบบจากการปรึกษาเรื่องการติดตั้งระบบ คุณสามารถพิจารณาถึงความใส่ใจและการให้ความสำคัญในแต่ละส่วนงานว่า พวกเขาเข้าใจความต้องการของธุรกิจมากน้อยแค่ไหน รู้วิธีการนำระบบไปใช้หรือไม่ และมีแนวโน้มว่าจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ต้องการหรือไม่ หากทั้งหมดเข้าข่ายและมีแนวโน้มที่ดีก็เป็นไปได้ว่า ผู้วางระบบทีมนั้นจะสามารถช่วยให้คุณใช้ ERPได้อย่างที่คุณมุ่งหวัง เพราะการใช้งานระบบให้ได้ประโยชน์นี้ ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ของลูกค้าและผู้วางระบบ ก่อนจะไปสู่การจัดทำข้อกำหนด นอกจากนี้คุณควรเช็คเสมอว่าเป้าหมายนั้นสอดคล้องกับความเป็นไปได้จริงแค่ไหนในระหว่างการวางแผน ฉะนั้นการตรวจสอบความคาดหวังต่อผลลัพธ์และความเป็นไปได้จริงที่อาจเกิดขึ้นจึงต้องถูกนำมาไตร่ตรองอยู่เสมอ  

 

โดยสรุปแล้ว แค่ความมั่นใจที่มีต่อเทคโนโลยีที่ต้องการนำมาใช้นั้นว่าทรงพลังยังไม่เพียงพอ หากแต่ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ จะก่อให้เกิดการเสียโอกาส ต้นทุน เวลา ค่าใช้จ่าย และประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร ยิ่งไปกว่านั้นอาจนำมาซึ่งความเสียหายทางธุรกิจอย่างที่คุณคาดไม่ถึงอีกด้วย ฉะนั้นการมีผู้ช่วยหรือที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ ให้ความใส่ใจต่อ requirement ทั้งหมด จะช่วยแนะนำให้คุณและทีมงานได้เข้าใจการทำงานที่ชัดเจนเพื่อไปสู่จุดที่มุ่งหวังและผลลัพธ์อย่างที่ต้องการได้จึงเป็นอีกส่วนที่คุณควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เราได้พบว่า ตลอดช่วงเวลาที่เศรษฐกิจซบเซาในปี 2019-2022 นี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่พรากโอกาสและส่งผลต่อความสำเร็จโดยรวมหลายอย่างของธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อพูดถึงเวลาและความสูญเสียแล้ว การตัดสินใจกับทางเลือกที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องเจ้าของธุรกิจต้องให้ความสำคัญเช่นกัน ในตลาดมีระบบ ERP ให้ธุรกิจเลือกใช้หลากหลาย แต่ทำไมหลายบริษัทเลือก SAP Business One?

ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าพิจารณาเลือก SAP Business One หนึ่งในระบบอันดับต้น ๆ ที่นิยมสูงสุดในโลก จะมีในเรื่องของความสามารถในการจัดข้อมูลซับซ้อนของแต่ละส่วนงานที่มีมากขึ้น สามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ตรงตามความต้องการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทันใจ และช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากในการจัดข้อมูลที่อาจทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงเกินไป เห็นได้ชัดเป็นอย่างยิ่งตอนที่ scenario ของแต่ละธุรกิจเปลี่ยนไป และแน่นอนว่า SAP Business One เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงคุณภาพพอที่จะช่วยจัดการงานโดยรวมทั่วทั้งองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีตัวช่วยในการจัดการที่ดีฉะนั้นย่อมมีโอกาสเติบโตไปในทางที่ทิศทางที่ดีขึ้นได้ 

Aware มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ช่วยดูแลแนะนำลูกค้าให้ก้าวทันนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอยู่เสมอ ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการบูรณาการระบบแก่กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ เราเป็นผู้ช่วยเรื่องให้คำปรึกษาในการวางแผนดูแลระบบและเป็น Partner กับผู้ให้บริการ SAP คุณสามารถปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ SAP Business One กับเราได้ที่นี่ https://www.aware.co.th/contact/ 

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้ ERP ควรพิจารณาอย่างไร?

About Matana Wiboonyasake

Digital Marketing Executive | Aware Group ตั้งใจที่จะส่งมอบเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เขียนให้อ่านง่ายและเข้าใจง่าย แม้ผู้ที่ไม่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีมาก่อนก็สามารถศึกษาร่วมกันได้ ยินดีที่จะนำเสนอเรื่องราวน่าสนใจด้านเทคโนโลยี มาร่วมเรียนรู้ด้วยกันนะคะ